การสร้างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการประกอบรถยนต์ ดังนั้นในขั้นตอนนี้จึงต้องไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นต้องไปรับการตรวจสอบจากอุปกรณ์ตรวจจับหรือเซ็นเซอร์หลากหลายแบบ แล้วแต่ละแบบจะมีกระบวนการอย่างไรถึงไม่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ ตามไปดูกัน
สามารถเข้าไปอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ คู่มือและแหล่งรวมข้อมูลกระบวนการผลิตรถยนต์ ที่รวมบทความที่น่าสนใจทุกบทความไว้ในที่เดียว และคุณยังสามารถดาวน์โหลดคู่มือไปอ่านได้ฟรี
การสร้างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน
การสร้างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนถือว่าเป็นศูนย์กลางของยานพาหนะทุกชนิด ซึ่งชิ้นส่วนต่างๆ ถูกนำมากลึง เจียร์ และประกอบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเครื่องยนต์ เกียร์ และสายพานขับเคลื่อนในกระบวนการผลิตนี้
โดยกระบวนการผลิตของการสร้างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนจะถูกเริ่มจากการรับชิ้นส่วนจากงานหลอมเหล็กหล่อ (Foundry) จากนั้นจะถูกนำมากลึง เจียร์ ให้เป็นชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อนำมาประกอบเป็นเครื่องยนต์ หลังจากนั้นก็จะเอาเครื่องยนต์ไปประกอบกับระบบขับเคลื่อนจนได้ชุดขับเคลื่อนของรถยนต์

การประยุกต์ใช้งานส่วนสร้างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน
งานตรวจจับโลหะกับเซ็นเซอร์ตรวจจับโลหะ สำหรับการประยุกต์ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ เช่น พื้นที่ที่มีการกระจายของเศษโลหะหรือพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเสียดสีของเศษโลหะ เซ็นเซอร์ตรวจจับโลหะรุ่นผิวหน้าเหล็กกล้าสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้ลักษณะสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ด้วยโครงสร้างที่เป็นสแตนเลส สตีล (Stainless Steel) ทำให้ตัวอุปกรณ์มีเสถียรภาพและทนทานกว่า จึงแทบไม่มีผลกระทบใดๆ ถึงแม้จะอยู่ในสภาพหน้างานที่มีการเสียดสีหรือขีดข่วนของเศษโลหะก็ตาม
อีกทั้งด้วยคุณสมบัติพิเศษแบบ 2X หรือ 3X จากแบบรุ่นปกติ คุณสามารถเลือกอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ม่ความสามารถเพิ่มเติมจากเดิม เช่น ระยะตรวจจับที่ไกลขึ้น การตรวจจับโลหะต่างชนิด (Factor 1) หรือการทนทานต่อคราบสะเก็ดไฟ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

การระบุชุดเครื่องและการจัดการเครื่องมือด้วยระบบ RFID
การระบุชุดเครื่องมือ และการจัดการเครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ RFID สำหรับงานอุตสาหกรรม เพื่อการรักษาความปลอดภัยที่สูงที่สุด สำหรับข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม และในที่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการจัดการชุดเครื่องมือและอุปกรณ์ในการผลิตเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน
ชุดระบบ RFID สำหรับงานอุตสาหกรรมมีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งหมดไว้ และเตรียมพร้อมสำหรับการเรียกใช้งานในทุกๆ จุดที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่สำคัญของชุดเครื่องมือแบะอุปกรณ์จะถูกอัพเดทอยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งคุณจะได้รับทราบภาพรวมข้อมูลการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และจะไม่ก่อให้เกิดความผิดพลาดสำหรับการกำหนดชุดเครื่องหรืออุปกรณ์สำหรับงานผลิตเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน

การติดตามชิ้นส่วนการผลิตด้วยระบบ RFID
การติดตามชิ้นส่วนการผลิตด้วยระบบ RFID สำหรับงานอุตสาหกรรม เพื่อกระบวนการควบคุมที่มีความเชื่อถือได้สูงสุด การใช้ระบบ RFID ในการพิสูจน์หรือตรวจสอบการบันทึกข้อมูลในกระบวนการผลิตทุกๆ ขั้นตอน และติดตามกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนได้โดยไม่มีช่องโหว่ในการตรวจสอบ
ทำให้คุณสามารถทราบสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนในทุกๆ จุดของส่วนการผลิตและเพื่อให้บรรลุถึงการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของกระบวนการผลิตในขณะที่มีการเพิ่มการผลิตของอุปกรณ์ของคุณ

การตรวจสอบตำแหน่งที่แม่นยำด้วยสวิตช์เช็คตำแหน่ง
ความสามารถของอุปกรณ์สวิตช์เช็คตำแหน่งอุปกรณ์มีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก และมีความแม่นยำสูง อีกทั้งอุปกรณ์สวิตช์เช็คตำแหน่งสามารถพิสูจน์การใช้งานที่มีประสิทธิภาพได้ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ เนื่องจากตัวอุปกรณ์มีความสามารถในการทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมี เช่น สารหล่อเย็น สารหล่อลื่นต่างๆ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์สวิตช์เช็คตำแหน่งสามารถตอบสนองการใช้งานของกระบวนการผลิตทุกๆ ขั้นตอนจากงานขึ้นรูป งานตัด งานเจาะ จนถึงงานขัดเจียร กลึง จนสามารถสร้างเป็นเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับการสร้างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน มีขั้นตอนดังนี้ ส่วนแรกเป็นการตรวจจับโลหะด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับโลหะที่ทำงานได้แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีเศษโลหะปลิว การระบุชุดเครื่องมือด้วยระบบ RFID จัดการการนำเครื่องมือมาใช้งานได้ตามลำดับถูกต้อง การติดตามชิ้นส่วนการผลิตด้วยระบบ RFID ตรวจดูชิ้นส่วนการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อดูว่าชิ้นงานนั้นสมบูรณ์ตามที่ต้องการ และสุดท้ายการตรวจสอบตำแหน่งด้วยสวิตช์เช็คตำแหน่ง ตรวจดูกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน
ถ้าคุณมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า สามารถแชทมาหาเราได้ทันทีจากช่องแชทด้านล่างขวามือ หรือส่งเมลล์มาที่ [email protected] หรือผ่าน Line ที่ @factomart และเบอร์โทร 021-050-567 ได้หลากหลายช่องทาง มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำตลอดเวลาทำการ