AVR Stabilizer คืออะไร
AVR ย่อมาจาก Automatic Voltage Regulator เครื่องควบคุมแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือบางครั้งจะเรียก AVS ย่อมาจาก Automatic Voltage Stabtilizer ซึ่งที่เรียกติดปากกันสั้นๆว่า AVR หรือ Stabtilizer นั้นเอง โดยอุปกรณ์ตัวนี้ทำหน้าที่ควบคุมแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติเพื่อรักษาแรงดันไฟฟ้าที่ผ่านตัวมันให้คงที่ ถึงแม้มีสัญญาณไฟฟ้ารบกวนหรือมีความผิดปกติของระบบไฟฟ้า เช่น ไฟตก,ไฟเกิน, ไฟกระพริกและไฟกระชาก เพื่อช่วยป้องกันโหลดหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ให้เกิดความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี, เครื่องเสียง, เร้าเตอร์, เครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์, เครื่องถ่ายเอกสาร, ตู้แช่เย็น และอื่นๆ ที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม
เหตุผลที่ต้องใช้ AVR Stabilizer
ในพื้นที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่คงที่ เช่น ไฟกระชากและไฟขาด เกิดขึ้นบ่อยและอาจรุนแรงพอที่จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดความเสียหายได้ การที่แรงดันไฟฟ้าไม่คงที่เหล่านี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุดังนี้
- มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการเปลี่ยนแปลงโหลดอย่างรวดเร็ว เช่นเครื่องเชื่อม เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ เช่น เครื่องปรับอากาศ
อุปกรณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วของมอเตอร์ เช่น เครื่องบด เป็นต้น อยู่ในระบบไฟฟ้าด้วย - บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ใกล้เขตพื้นที่โรงงาน เนื่องจากการเปิด-ปิด เครื่องจักรในโรงงานค่อนข้างใช้พลังงานสูงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้เกิดผลกระทบในเรื่องแรงดันไฟฟ้าที่ไม่คงที่ ในระบบไฟฟ้าของคุณ
- เกิดไฟฟ้าดับกระทันหันเป็นประจำ
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณก็ตกอยู่ในความเสี่ยง นี่คือที่มาของ Automatic Voltage Regulator (AVR) ในแง่พื้นฐานวัตถุประสงค์ของ AVR คือการควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ควรใช้ AVR กับเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณ ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น
สำหรับความผิดปกติของระบบไฟฟ้านั้นเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวเรามากและไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าว่าระบบไฟฟ้ายังปกติอยู่ ซึ่งในปัจจุบันอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆส่วนมากใช้ไฟฟ้า หากกำลังมองหาอุปกรณ์สักตัวสำหรับป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้า AVR หรือ Stabilizer ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
หากท่านสนใจอ่านข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาที่ แหล่งรวมข้อมูล เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า อัตโนมัติ AVR Stabilizer หรือกำลังมองหาสินค้ากลุ่ม AVR Stabilizer ก็สามารถเข้าไปดูสินค้าและเลือกซื้อแบบออนไลน์ได้ทั้งเว็บไซต์ Factomart โดยตรงหรือร้าน Factomart ใน Lazada และ Shopee ได้ตามสะดวกเลย หากเลือกไม่ถูกว่าจะใช้แบบไหนดี ปรึกษาทีมงาน Technical Engineer เราได้ทุกช่องทางครับ
