Automatic Transfer Switch ทำงานแบบอัตโนมัติได้อย่างไร

Share this post

Automatic Transfer Switch หรือเรียกสั้นๆ ว่า ATS เป็นสวิตซ์รูปแบบหนึ่งที่ใช้ในระบบไฟฟ้า มันสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติเมื่อเกิดปัญหาทางไฟฟ้า มาดูกันว่าทำไมมันถึงทำงานแบบอัตโนมัติได้ ทั้งที่มันเป็นเพียงแค่สวิตซ์เท่านั้น ไปดูกัน

Automatic Transfer Switch ก็คืออุปกรณ์จำพวก Change Over Switch ชนิดหนึ่ง เรามาดูกันก่อนว่ามันคืออะไร

Change Over Switch คืออะไร

Change Over Switch คือ สวิตซ์เลือกแหล่งจ่ายไฟฟ้า ยกตัวอย่างการใช้งาน เช่น เมื่อไฟจากการไฟฟ้าดับ Change Over Switch จะสับสวิตซ์ไปยังแหล่งจ่ายสำรองซึ่งอาจจะเป็นไฟจากแผงโซล่าห์ หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานยังสามารถมีไฟฟ้าใช้งานได้ตามปกติ แบ่งออกตามการใช้งานเป็น 2 ประเภท คือ

Manual Transfer Switch (MTS)

ใช้สำหรับเลือกแหล่งจ่ายทางไฟฟ้าแบบชนิดสั่งการด้วยมือ เช่น ใช้เลือกไฟระหว่างเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากับหม้อแปลงไฟฟ้าหรือใช้เลือกไฟระหว่างหม้อแปลงไฟฟ้ากับหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้น

Automatic Transfer Switch (ATS)

สวิตซ์ที่ใช้เลือกแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ โดยอาจจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Motor Drive Switch นั่นเอง ให้เห็นภาพง่ายๆคือการเอาอุปกรณ์ MTS มาติด Motor Drive เพื่อใช้ในการสับเปลี่ยนของสวิตซ์แบบอัตโนมัตินั่นเอง

ทำไมจึงจะต้องติด ATS ?

หลายท่านยังสงสัยว่าทำไมจึงจะต้องติดเจ้า ATS นี้ด้วย และจะช่วยงานทางด้านไฟฟ้าเราอย่างไร ?

สำหรับงานบางประเภทนั้นมีความสำคัญ ไม่สามารถจะเกิดไฟดับ หรือไฟตกได้ เช่น งานทางด้าน Network สื่อสารต่างๆ , งานทางด้านการบิน อุปกรณ์ ATS นี้จะเป็นตัวลดความเสี่ยงและเพิ่มเสถียรภาพของระบบไฟฟ้า เสมือนว่ามีตัว back up ไฟอีกชั้นหนึ่ง

นอกจากนี้ ATS เองยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน application ในโรงงาน เช่น กลับทิศมอเตอร์เดินหน้า – ถอยหลัง หรือใช้แทน Latching relay สลับทำงานของปัมป์น้ำขนาดใหญ่ไม่ต้องเพิ่มแมกเนติก

ATS เป็นแค่สวิตซ์แล้วจะทำงาน AUTO ได้อย่างไร ?

ตัว ATS นั้นจะทำงานได้แบบอัตโนมัติก็ต่อเมื่อต่อเข้ากับชุด Controller ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียกว่า Automatic Transfer Switch Controllers ซึ่งปัจจุบัน จะควบคุมด้วยไมโครโปรเซสเซอร์

การควบคุมการสับสวิตซ์ด้วย ATS Controller

ความสามารถของ ATS Controller ทางด้านการควบคุมการสับสวิตซ์ โดยตรวจสอบและกำหนดค่าสภาวะในการทำงานของ ATS ได้ เช่น

แรงดันปกติและความถี่ปกติ

แรงดัน ความถี่ Over/Under

แรงดัน, ความถี่ เกิน (Over)/ต่ำ (Under) และสามารถกำหนดฮีทเทอรีซีทในการกลับคืนสภาวะปกติได้ และการเซ็ตค่าสามารถเซ็ตแยกอิสระทั้ง ฝั่ง Normal และ Emergency ได้

ตั้งค่าเวลาทรานส์เฟอร์ได้

สามารถปรับตั้งค่าเวลาในการทรานส์เฟอร์ได้ (Time delay) โดยค่าที่ต้องปรับตั้งได้มีดังนี้ Main Failure Timer, Delay on transfer timer, Main return timer และ Cool down timer เป็นต้น

การแสดงผลด้วย ATS Controller

ความสามารถของ ATS Controller ทางด้านการควบคุมการสับสวิตซ์ โดยตรวจสอบและกำหนดค่าสภาวะในการทำงานของ ATS ได้ เช่น

LED แสดงสภาวะการทำงาน

ATS Controller จะมี LED แสดงสภาวะการทำงานของหน้าสัมผัสสวิทช์ว่าอยู่ในตำแหน่งใด มีแหล่งจ่ายใดมาบ้าง และมี LED โชว์ FAULT เมื่อ เกิดเหตุการณ์ชุดควบคุมสั่งงานแล้วแต่ ATS ไม่ทำงานตามฟังค์ชั่น

แสดงค่าแรงดันและความถี่ได้

แสดงค่าแรงดันและความถี่ของทั้ง 2 แหล่งจ่ายได้และสามารถดูค่าทางไฟฟ้า เช่น ค่ากระแส, ค่ากำลังไฟฟ้า และค่าเพาวเวอร์แฟคเตอร์ เป็นต้น

เทคโนโลยีใหม่ของ ATS Controller

ปัจจุบันนอกจาก Function ข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว เนื่องจากการแข่งขันเทคโนโลยีทางไฟฟ้าค่อนข้างสูง ผู้ผลิต ATS Controller ก็พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆให้ผู้ใช้ได้วิ่งตามกระแสอีกเช่นกัน

ตัวอย่าง ATS Controller

ATS Controller ของแบร์ด

ฟังก์ชั่น Engine Exercise

ฟังก์ชั่นสำหรับให้เครื่องยนต์กลไกต่างๆ มีการทำงานตามระยะเวลาที่ตั้งไว้บ้าง เพื่อให้พร้อมใช้งานทุกครั้งเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน

ฟังก์ชั่น MANUAL

การเลือกฟังก์ชั่น MANUAL สามารถสั่งงานโดยปุ่มกดที่ของ Controller เลย ไม่ต้องออกแรงบิดคันโยกเหมือนสมัยก่อน

เชื่อมต่อแบบ RS232 หรือ RS-485

สามารถเชื่อมต่อแบบ RS232 หรือ RS-485 กับระบบซอฟท์แวร์ได้ผ่านโปรโตคอลสื่อสาร โดยสามารถดูสถานะการทำงานของ ATS เซ็ตค่าพารามิเตอร์ต่างๆ รวมถึงการสั่งควบคุมผ่านระบบซอฟท์แวร์ได้

ค่าที่ให้เซ็ตละเอียด

ค่าที่ให้เซ็ตละเอียดหลากหลายมากขึ้น เช่น การเซ็ต Interlock time ของช่วงเวลาในการสั่ง Transfer Switches จากแหล่งจ่ายที่ 1 ไปแหล่งจ่ายที่ 2 เพื่อไม่ให้ไฟชนกัน

สำหรับการเลือกใช้ ATS และชุด Controller ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการจะใช้ฟังก์ชั่นไหน และราคาพอเหมาะหรือไม่ ถ้าคุณมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า สามารถแชทมาหาเราได้ทันทีจากช่องแชทด้านล่างขวามือ หรือส่งเมลล์มาที่ [email protected] หรือผ่าน Line ที่ @factomart และเบอร์โทร 021-050-567 ได้หลากหลายช่องทาง มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำตลอดเวลาทำการ

Facebook Comments