วิธีการเลือก Humidity Sensor

ก่อนที่เราจะเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เราควรศึกษารายละเอียดของอุปกรณ์นั้นๆ ให้ดีเสียก่อนเพื่อที่เวลาเราเสียเงินหรือลงทุนซื้อไปแล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายหากอุปกรณ์ที่เลือกซื้อมานั้นไม่เหมาะสมกับงาน ดังนั้นเรามาดูรายละเอียดที่สำคัญในการเลือกซื้อเครื่องวัดความชื้นกันครับ

• ประเภทการทำงาน: ควรเลือกเครื่องวัดความชื้นที่มีหลักการทำงานเหมาะสมกับงานของเราให้มากที่สุด ซึ่งหลักการทำงานของเครื่องวัดความชื้นที่ใช้กันอยู่มีด้วยกัน 3 แบบ คือ Capacitive Sensor, Resistive Sensor, Thermal Conductivity
• Input และ Output: สิ่งที่สำคัญมากในการเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้านั้นคือสัญญาณ Input และ Output เพราะหากเราเลือกซื้อไปใช้ผิดอาจทำให้งานนั้นเสียหายและล่าช้าได้
• Accuracy: เป็นค่าที่ใช้บ่งบอกถึงความแม่นยำของอุปกรณ์ เราสามารถดูว่าอุปกรณ์นี้มีค่าความคลาดเคลื่อนในการอ่านค่ามากน้อยเพียงใดและค่าความคลาดเคลื่อนนี้อยู่ในช่วงที่เราสามารถรับได้หรือไม่ในการทำงาน
• Operating Conditions: เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์นั้นๆ ว่าอุปกรณ์นั้นสามารถใช้งานได้ที่ช่วงอุณหภูมิและความชื้นที่เท่าไร การที่เราจะดูค่านี้เราควรทราบถึงช่วงอุณหภูมิและความชื้นในการใช้งานจริงว่ามีค่าเท่าไรและค่อยมาเทียบดูค่าเหล่านี้กับอุปกรณ์ที่เราเลือกไว้
• Power Supply: เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวอุปกรณ์ เราควรทราบว่าอุปกรณ์นั้นใช้ร่วมกับแหล่งจ่ายไฟแบบใด
• IP Rating: เป็นมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น ซึ่งเราสามารถรู้ระดับการป้องกันน้ำและฝุ่นของตัวเซ็นเซอร์เองได้จากค่านี้ หากงานที่จะนำเครื่องวัดเซ็นเซอร์ไปใช้นั้นมีสภาวะแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับฝุ่นและน้ำ มาตรฐานนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรดูเพื่อเป็นสิ่งที่การันตรีได้ถึงความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเครื่องมือได้เป็นอย่างดี สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IP Rating ได้เลยครับ ทาง Factomart.com ได้จัดทำบทความไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับผม