การที่จะมองเห็นภาพชัดเจนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของแสงเป็นส่วนสำคัญ แสงเดินทางจากแหล่งกำเนิดแสง (Light Source) ไปยังวัตถุ (Object) เมื่อแสงกระทบกับวัตถุจะมีการสะท้อนกลับมาที่ตาของเราหรือในที่นี้คือตัวกล้องแมชชีนวิชั่นนั่นเอง ความคมชัดของภาพที่เห็นขึ้นอยู่กับว่าวัตถุนั้นๆ ดูดซับหรือสะท้อนแสงกลับได้เท่าไหร่ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพ รูปร่าง และสีของวัตถุ เพราะฉะนั้นการเลือกแหล่งกำเนิดแสงในงานของวิชั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ในระบบแมชชีนวิชั่นนั้นจะบันทึกภาพตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพไว้ในตัวกล้อง ซึ่งเป็นการสอนให้แมชชีน (Machine) รู้หรือจำภาพได้ ทำโดยอาศัยภาพต้นแบบ (Template) ซึ่งได้จากการคัดเลือกภาพที่ดีที่สุด โดยพิจารณาจาก ความคมชัด , ความสมบูรณ์ และความสว่างของภาพ มาเป็นตัวเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบัน โดยแมชชีนวิชั่น ในการประมวลผลข้อมูลภาพเป็นเครื่องมือตัดสินใจ ซึ่งภาพต้นแบบจะต้องสามารถเป็นตัวแทนของภาพทั้งหมดได้ เพราะฉะนั้นการที่เราเลือกใช้แสงให้ถูกต้องและควบคุมแหล่งกำเนิดแสงให้คงที่ในขณะที่บันทึกภาพต้นแบบและในขณะที่เดินเครื่องการผลิตจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมคุณภาพการผลิต
การเลือกประเภทแหล่งกำเนิดแสง
ในการเลือกใช้แหล่งกำเนิดแสงนั้นเราสามารถแบ่งประเภทของแหล่งกำเนิดแสงได้เป็น 2 โหมด คือ OPPOSED MODE และ PROXIMITY MODE ซึ่งแต่ละแบบก็จะใช้กับชิ้นงานแต่ละประเภทแต่งต่างกันไปแล้วแต่ความเหมาะสมของชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็น รูปร่าง พื้นผิว พื้นผิวสี และเงา ร่วมไปถึงการสะท้อนของชิ้นงาน ซึ่งคุณสามารถไปดู ประเภทของแหล่งกำเนิดแสงของระบบวิชั่น ได้จากที่นี่
ปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้แหล่งกำเนิดแสงสำหรับวิชั่น
ปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้แหล่งกำเนิดแสงสำหรับวิชั่นนั้นมีอยู่หลายแบบมาก
รูปทรงและรูปร่างของแหล่งกำเนิดแสง
รูปทรงและรูปร่างของแหล่งกำเนิดแสงสำคัญมากในระบบวิชั่น ควรเลือกให้เหมาะสมกับชิ้นงาน ดูว่าเราจะตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์แบบใด ไม่ว่าจะเป็นด้านบนด้านข้างหรือด้านหลัง เพราะจะช่วยเรื่องเพิ่มความคมชัดของชิ้นงานให้มากขึ้น ลดแสงสะท้านของวัตถุ และลดการเกิดจุดสะท้อน
เทคนิคการจัดแสงในระบบวิชั่น
เทคนิคการจัดแสงในระบบวิชั่นนั้นควรดูที่เป้าหมายของผลิตภัณฑ์ของสินค้าที่จะถ่ายว่าจะดูที่ พื้นที่ รูปร่าง ขนาด หรือเงา รวมถึงเรื่องการเอียงของแหล่งกำเนิดแสงด้วย โดยมี 3 แบบ คือ
Dark-Field การให้แหล่งกำเนิดแสงทางด้านข้าง แบบนี้จะเกิดแสงสะท้อนจากชิ้นงานสูงมากและพื้นผิวที่ให้แสงจะสว่างมากขึ้น
Bright –Field การให้แหล่งกำเนิดแสงโดยตรง สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของสีและรูปร่าง และพื้นผิวของชิ้นงานจะละเอียดขึ้น
Backlight การให้แหล่งกำเนิดแสงทางด้านหลัง ตรวจสอบโดยการใช้เงาของชิ้นงาน(เงา)และมีความคมชัดของชิ้นงานสูงมาก
แบบ Back light
แหล่งกำเนิดแสงที่มีความเข้มแสงต่ำ ส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้ด้านหลังของวัตถุด้วยจุดประสงค์ในการให้เกิดเงาของวัตถุขึ้นเพื่อที่จะให้วัตถุมีขนาดและรูปร่างสำหรับให้อุปกรณ์วิชั่นเซ็นเซอร์ตรวจจับ แหล่งกำเนิดแสงแบบนี้ใช้เพื่อตรวจจับหาช่องว่างหรือหลุม รูปร่างวัตถุ รอยแตกหรือรอยขีดข่วน รวมถึงฟองอากาศบนชิ้นส่วนเป้าหมายได้ชัดเจน
แบบ Area Light
แหล่งกำเนิดแสงที่มีความเข้มของแสงมากจะทำให้เกิดแสงจ้า ทำให้เห็นเงาและพื้นผิวของวัตถุได้ชัดเจนขึ้น แต่แสงที่ออกมานั้นอาจจะทำให้เกิดเงาที่ไม่ต้องการได้ มีแสงสะท้อนที่ค่อนข้างสูง
แบบ Ring Light
แหล่งกำเนิดแสงให้แสงสว่างในพื้นที่ขนาดจำกัดตรงกลาง เปิดเป็นรูเพื่อเอาไว้สำหรับติดกับตัววิชั่นเซ็นเซอร์ แสงออกจากวงแหวนเป็นรูปวงกลมหรือวงแหวนของแสงที่มีความสว่างและความเข้ม ซึ่งให้ความสว่างแบบไร้เงาและมีความคมชัดของภาพดี แสงจากวงแหวนมีการใช้งานได้หลากหลาย แต่มันอาจทำให้เกิดแสงสะท้อนบนชิ้นงานที่สะท้อนแสงได้
แบบ Low-Angle
แหล่งกำเนิดแสงมุมต่ำช่วยเพิ่มความคมชัดของคุณลักษณะพื้นผิวมากยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งในแนวตั้งฉากกับตัวกล้อง โดยใช้มุมเอียงเล็กน้อยของแหล่งกำเนิดแสง จะต้องติดตั้งแหล่งกำเนิดแสงอยู่ใกล้กับวัตถุ แสงทำให้เกิดจุดร้อนและแสงเงา
แบบ Diffused Light
แหล่งกำเนิดแสงแบบโดมนี้จะให้แสงแบบรอบทิศทาง และโดมนี้จะช่วยลดการเกิดแสงจ้าและเงาได้ดี แต่ต้องใช้พื้นที่เป็น 3 เท่าในการส่องสว่างของวัตถุ และพื้นผิวที่สัมผัสแสงจะไม่ค่อยชัดเจนเหมือนกับแบบที่สัมผัสแสงโดยตรง
แบบ On-Axis Light
แหล่งกำเนิดแสงแบบนี้จะช่วยลดในการสะท้อนของพื้นผิววัตถุได้เป็นอย่างดี การกระจายแสงแบบนี้จะส่องแสงไปตั้งฉากกับเป้าหมายและใช้กระจกส่งแสงสะท้อนที่มุม 90 องศาไปยังเป้าหมาย วิธีการนี้ช่วยลดการเกิดเงาและมีแสงสะท้อนน้อยมาก สามารถตรวจสอบวัตถุมันวาวหรือโปร่งใสได้
การเลือกแหล่งกำเนิดแสงมีปัจจัย 3 อย่างที่ต้องพิจารณาคือ อย่างแรกคือรูปทรงและรูปร่างของแหล่งกำเนิดแสงที่ช่วยเพิ่มความคมชัดให้ชิ้นงาน อย่างที่สองคือ เทคนิคการจัดแสงในระบบวิชั่น ท้ังแบบ Dark-Field, Bright –Field และ Backlight และสุดท้ายคุณสมบัติของแหล่งกำเนิดแสงแต่ละประเภท ทั้ง 6 แบบที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย
ถ้าคุณมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า สามารถแชทมาหาเราได้ทันทีจากช่องแชทด้านล่างขวามือ หรือส่งเมลล์มาที่ [email protected] หรือผ่าน Line ที่ @factomart และเบอร์โทร 021-050-567 ได้หลากหลายช่องทาง มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำตลอดเวลาทำการ