การเลือกอุปกรณ์ Metrology Equipment

บล็อก Factomart.com ยินดีต้อนรับครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์อุตสาหกรรม วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเรียนรู้วิธีการเลือกซื้อ Metrology Equipment กันครับ อย่ารอช้า เราไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ

การเลือกอุปกรณ์ Metrology Equipment

การเลือกอุปกรณ์ได้เหมาะสมกับงาน ถือว่าเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่ทำให้งานบรรลุได้สำเร็จตามต้องการและทำให้งานมีคุณภาพมากขึ้น และหากเราเลือกใช้อุปกรณ์ได้ไม่เหมาะสมกับงาน อาจส่งผลเสียทำให้งานเสียหาย เสียต้นทุนการซ่อมบำรุงหรือเสียงบในการซื้ออุปกรณ์ใหม่ ดังนั้น ก่อนทำการเลือกซื้อใดๆ ก็ตาม เราควรศึกษาข้อมูลทางด้านเทคนิคหรือสเปคของอุปกรณ์นั้นๆ ว่าเหมาะสมกับงานที่เราจะนำมาใช้หรือไม่
สิ่งที่ควรทราบหลักๆ ในการเลือกซื้อเครื่องมือวัดมีดังต่อไปนี้

1.    ลักษณะของงานที่ต้องการวัด ควรทราบลักษณะของงานที่เราจะนำเครื่องมือวัดไปวัด เช่น หากต้องการวัดความหนาของผิวเคลือบบนวัสดุ หรือวัดความหนาของสีที่เคลือบไว้ ควรเลือก Coating Thickness Gauges หรือหากเป็นงานธรรมดาที่ต้องการวัดความยาวหรือความหนาของวัสดุก็สามารถเลือกใช้ Vernier Calipers (เวอร์เนียคาลิเปอร์) แบบธรรมดา การรูัว่าลักษณะของงานที่เราจะทำการวัดเป็นแบบไหนและเลือกซื้ออุปกรณ์ได้ตรงตามลักษะงานนั้นจะช่วยให้เราประหยัดต้นทุนได้มาก เพราะการซื้ออุปกรณ์มีเกินฟังก์ชันการใช้งานมากเกินไปเพราะนั้นจะทำให้เราฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ

2.    ความสะดวกและความทนทานในการใช้งาน ควรเลือกเครื่องมือวัดที่ออกแบบมาให้สามารถพกพาได้สะดวก จับถนัดมือ มีน้ำหนักเบา แต่ทำจากวัสดุที่มีความทนทานและแข็งแรงทำให้สามารถใช้งานได้ระยะยาว และในการใช้งานในอุตสาหกรรมมักพบเจอกับสภาวะที่เลวร้ายอยู่เสมอ ดังนั้น อุปกรณ์ที่ดีควรทนต่อการกระแทกโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์จำพวก Metrology Equipment เราควรเลือกซื้อที่ผลิตจากวัสดุที่ได้คุณภาพเพราะหากเราเลือกซื้อ Metrology Equipment ที่ทำจากวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพเวลาใช้งานจริงแล้วเกินการกระแทกหรือตกขึ้นมาจะทำให้ค่าของการวัดนั้นผิดพลาดไปได้

ความสะดวกในการใช้งานนอกจากจะเป็นเรื่องของรูปลักษณ์แล้วนั้น ฟังก์ชันการใช้งานถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะทำให้ผู้ซื้ออย่างเราๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทางผู้ผลิตเองได้มีการพัฒนาและออกแบบสินค้าของตัวเองให้มีความโดดเด่นมากขึ้น เช่น MITUTOYO ได้ออกแบบ micrometer รุ่นที่เป็น QuantuMike ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความเร็วรอบในการวัดที่เร็วมากถึง 2mm/rev ซึ่งการที่มีความเร็วรอบ (feed) ที่ไวนั้นจะทำทำงานออกมาแม่นยำ และวัดได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ภาพแสดงคุณสมบัติ QuantuMike ไมโครมิเตอร์ ของ MITUTOYO

นอกจากนี้ MITUTOYO ได้ออกแบบ Calipers ให้มีฟังก์ชัน ABSOLUTE ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ถูกออกแบบมาให้อุปกรณ์สามารถวัดค่าได้ โดยไม่ต้องทำการเซ็ตศูนย์หลายๆ ครั้ง และสามารถวัดค่างานได้ทันทีเมื่อเปิดใช้

ภาพแสดงคุณสมบัติ ABSOLUTE ของ MITUTOYO

ภาพการรับรองมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นเครื่องมือวัดของ MITUTOYO

3.    ช่วงการวัด (range) ความละเอียด (resolution) และค่าความแม่นยำ (accuracy) ควรเลือกช่วงการวัดให้ครอบคลุมงานที่ต้องการวัดและเลือกความละเอียดให้เหมาะสมในการอ่านค่ามากที่สุด และสิ่งสำคัญคือค่าความแม่นยำในการวัดเพราะค่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับค่าที่วัดได้

ภาพ Micrometer ความละเอียดสูง ที่มีความแม่นยำสูงถึง 0.0001mm ของ MITUTOYO

ภาพรายละเอียดสเปคของ Micrometer ของ MITUTOYO

4.    มาตรฐานต่างๆ มาตรฐานก็เป็นอีกสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสิ่งที่เป็นตัวการันตีถึงคุณภาพสินค้า ว่าสินค้าชิ้นนี้มีคุณภาพจริง มั่นใจได้ว่าสินค้าชิ้นนี้ ได้ผ่านการทดสอบคุณภาพต่างๆ แล้ว ซึ่งมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับก็มีด้วยกันหลายมาตรฐาน เช่น ISO 9001, QS-9000, ISO/TS 16949, CE, JIS, ISO/IEC 17025

ภาพแสดงสัญลักษณ์อุปกณ์ที่ได้มาตรฐาน CE

นอกจากนี้ทาง Factomart.com เราได้จัดทำเนื้อหาที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การวัดเหล่านี้ไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการบอกหน้าที่ของเครื่องมือวัดประเภทต่างๆ,  ข้อควรระวังและวิธีการดูแลรักษา หรือแม้กระทั่งวิธีการสอบเทียบเครื่องมือวัดและเครื่องมือวัดราคาถูกแพง ต่างกันที่อะไร และระบบการวัดไว้ให้ให้ผู้อ่านเลือกศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ หรือผู้อ่านท่านใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเข้ามาได้เลยนะครับ ทาง Factomart.com เรายินดีให้คำปรึกษาครับผม ^^

หรือหากท่านใดสนใจต้องการเลือกชมสินค้าสามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่ Factomart.comได้เลยครับ

Facebook Comments