หากเราต้องการให้อุปกรณ์ที่เรามีอยู่นั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราควรเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงาน ดังนั้น ในวันนี้ทาง Factomart.com ของนำเสนอบทความที่เกี่ยวข้องกับตัว Tachometer เครื่องวัดความเร็วรอบ มาให้ผู้อ่านได้ศึกษากัน
การเลือกใช้ตัว Digital Tachometer
การเลือกใช้งานตัว Digital Tachometer หรือ RPM Meter นั้นจะมีวิธีการเลือกตามการใช้งานที่ต้องการ โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
1. ประเภทหรือชนิดของเซ็นเซอร์ที่ใช้ต่อกับตัว Digital Counter ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบที่เป็น Dry Contact เช่น Limit Switch และแบบที่เป็นทรานซิสเตอร์ NPN และ PNP เช่น เอาท์พุตของเซ็นเซอร์ประเภทต่างๆ ซึ่งในการเลือกนั้นจะต้องสัมพันธ์กับความเร็วในการนับของเซ็นเซอร์ เช่น ถ้าชิ้นงานวิ่งด้วยความเร็วสูงก็ต้องใช้เซ็นเซอร์ประเภทที่เอาท์พุตเป็นแบบทรานซิสเตอร์ ซึ่งจะรองรับความเร็วได้สูงถึงหนึ่งแสนพัลส์ต่อวินาที ซึ่งขึ้นอยู่กับเครื่องวัดความเร็วรอบแต่ละประเภทด้วยว่ารองรับความเร็วได้สูงสุดและต่ำสุดเท่าไร
ภาพแสดงค่าความถี่สูงสุดในการวัดของตัวเครื่องวัดความเร็วรอบรุ่น MP5W ของ Autonics
2. ภาคจ่ายไฟสำหรับตัว Digital Tachometer นั้นโดยปกติจะนิยมใช้ค่าแรงดันที่เป็นมาตรฐานที่ใช้ในโรงงานอยู่แล้ว เช่น 110VAC หรือ 220VAC บางครั้งอาจจะมีการใช้ระดับแรงดันไฟฟ้าที่เป็น DC 24V เนื่องจากต้องการความปลอดภัยในการซ่อมบำรุงรักษา
3. ภาคจ่ายไฟสำหรับตัวเซ็นเซอร์ จะใช้สำหรับเป็นแหล่งจ่ายให้กับตัวเซ็นเซอร์ที่นำมาต่อเข้ากับเครื่องวัดความเร็วรอบซึงจะมีค่าแรงดัน 12VDC ดังนั้นต้องตรวจสอบด้วยค่าเซ็นเซอร์สามารถรับค่าแรงดันเท่านี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้สามารถใช้แหล่งจ่ายไฟจากภายนอกได้และทำการการเชื่อมกราวด์ของแหล่งจ่ายภายในกับภายนอกเข้าด้วยกันก็สามารถใช่้งานได้ตามปกติ
4. ขนาดในการติดตั้ง หรือ Size ในการติดตั้งเครื่องวัดความเร็วรอบ Digital Tachometer บนแผงหน้าปัด หรือที่ตู้คอนโทรล ซึ่งโดยปกติแล้วในประเทศเรานั้นจะอ้างอิงขนาดของตัวมิเตอร์ฺกันที่มาตรฐาน DIN 43700 ซึ่งปัจจุบันมาตรฐานนี้ถูกแทนที่ด้วยมาตรฐานใหม่คือ IEC 61554:2002-08 โดยจะเป็นขนาดของการเจาะรูบนแผงหน้าปัดเพื่อใส่ตัว Panel Meter ปัจจุบันขนาดที่มีใช้กันบ่อยๆ ได้แก่ขนาด 48*96mm, ขนาด 48*48mm, ขนาด 36*72mm, ขนาด 72*72mm และขนาด 48*96mm

ภาพตัวอย่างขนาดติดตั้งของเครื่องวัดความเร็วรอบ ขนาด 36*72mm และ 48*96mm
5. สัญญาณเอาท์พุตของเครื่องวัดความเร็วรอบ Digital Tachometer นั้น โดยปกติแล้วจะเลือกใช้งานหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการดูค่าอย่างเดียวก็ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้งาน แต่ถ้าต้องการใช้ Relay สำหรับตัดวงจรไฟฟ้า สามารถเลือกใช้งานตัว Digital Tachometer ที่มีเอาท์พุตซึ่งมีให้เลือก 3 ช่อง หรือ 5 ช่อง โดยจะใช้แทนสถานะ High Go Low

ภาพ Digital Tachometer แบบ 3 ช่อง High Go Low
6. ต้องการเชื่อมต่อกับตัวคอนโทรลเลอร์อื่นๆ เช่น PLC, PC หรือไม่ สำหรับเครื่องนับจำนวนบางรุ่นสามารถเชื่อมต่อสัญญาณผ่านการสื่อสารแบบอนุกรม RS-485 โดยใช้การสื่อสารผ่าน MODBUS Protocol ได้ ซึ่งจะสามารถเก็บข้อมูลการทำงานของตัว Counter หรือสั่งเปลี่ยนแปลงค่า Set Point SV ผ่านระบบออนไลน์ได้
ภาพคุณสมบัติการสื่อสารผ่านระบบ RS-485 ของ Digital Tachometer Autonics


ภาพการติดต่อสื่อสารผ่านระบบ RS-485 ของ Digital Tachometer Autonics
7. การแปลงสัญญาณความถี่หรือความเร็วรอบเป็นสัญญาณมาตรฐานทางไฟฟ้า เช่น 4-20mA, 0-10VDC เพื่อต่อเข้ากับระบบควบคุมแบบป้อนกลับ Feedback Control นั้นสามารถทำได้โดยการเลือกตัวมิเตอร์ที่สามารถส่งสัญญาณเอาท์พุตแบบที่ต้องการได้โดยเราสามารถทำ Scalling จากค่าความเร็วรอบเป็นกระแสได้ เช่น 0-1500RPM = 4-20mA

ภาพการแปลงความเร็วรอบเป็นกระแสของ Digital Tachometer Autonics
8. มาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำ IP ในการเลือกใช้งาน Digital Tachometer โดยส่วนใหญ่จะต้องถูกติดตั้งในบริเวณโรงงาน ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องฝุ่น ดังนั้นควรเลือก Digital Tachometer ที่มีการปิดมิดชิด โดยมี IP สูงๆ
เป็นอย่างไรบ้างครับ ^^ เมื่อทุกท่านอ่านบทความจบแล้วพอจะมองเห็นแนวทางในการเลือกใช้ตัว Digital Tachometer บ้างแล้วหรือยัง หากผู้อ่านท่านใดสนใจตัวสินค้าในกลุ่มของ Tachometer สามารถเข้ามาชมได้ที่ Factomart.com หรือต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมทางเราได้จัดทำไว้ให้แล้วไม่ว่าจะเป็นบทความที่เกี่ยวกับ หลักการทำงานของ Digital Tachometer, โครงสร้างพื้นฐานของ Digital Tachometer, การติดตั้งตัว Digital Tachometer หรือแม้กระทั่งการประยุกต์ใช้งาน Digital Tachometer ให้ผู้อ่านได้เลือกเข้าไปศึกษาได้เลยครับ