สวัสดีครับ ^^ เรากลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วนะครับ วันนี้ทางบล็อก Factomart.com มาพร้อมกับวิธีการเลือกซื้อโคมไฟ LED ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับว่าหากเราต้องการเลือกซื้อโคมไฟ LED มาใช้นั้นควรดูรายละเอียดอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้กันเลยครับผม
วิธีการเลือกโคมไฟ LED
วิธีการเลือกโคมไฟ LED ควรดูรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ฟลั๊กการส่องสว่าง (Luminous flux: Im): ความสว่างของแหล่งกำเนิดแสง มีหน่วยเป็นลูเมน (Im)
- ค่าความสว่าง (Illuminance: lux): ปริมาณแสงที่ตกกระทบบนพื้นผิวต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ มีหน่วยเป็นลูเมนต่อตารางเมตร (Im/cm2) หรือลักซ์ (lux) บางครั้งอาจเรียกว่าระดับความสว่าง หากเราต้องการทราบค่าความสว่างของบริเวณนั้นๆ สามารถหาได้โดยใช้เครื่องมือวัดค่าความสว่างของแสงเรียกว่า เครื่องวัด LUX

ภาพแสดงค่าความสว่างในชีวิตประจำวัน
- ค่าความเข้มแสง (Candela: Cd): ความเข้มของแสงที่ส่องออกมาจากวัตถุ
- ประสิทธิผลการส่องสว่าง (Luminous efficacy: Im/w): การดูประสิทธิภาพของหลอดไฟนั้นให้ดูจากค่าความสว่างต่อหน่วยพลังงานหรือลูเมนต่อวัตต์ หลอดที่มีประสิทธิผลสูงคือหลอดที่ให้ปริมาณแสงมากแต่ใช้กำลังไฟน้อย เช่น
หลอดไส้ 100W มีฟลั๊กการส่องสว่างอยู่ที่ 1300Im; efficacy = ความสว่างจากหลอดไฟ/จำนวนวัตต์
= ลูเมน/วัตต์
= 1300/100 = 13 Im/W
หลอดประหยัดไฟ 20W มีฟลั๊กการส่องสว่างอยู่ที่ 1250Im; efficacy = ความสว่างจากหลอดไฟ/จำนวนวัตต์
= ลูเมน/วัตต์
= 1250/20 = 62 Im/W
ดังนั้น หลอดประหยัดพลังงาน 20W จะมีประสิทธิภาพมากกว่าหลอดไส้ 100W
- ดัชนีความถูกต้องของสี (Color rendering index: CRI/Ra): คือค่าความถูกต้องของสีของวัตถุหรือสินค้าภายใต้แสงไฟ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าสีของวัตถุที่เห็นภายใต้แสงนั้นเพี้ยนจากความเป็นจริงมากหรือน้อย หากค่า Ra ต่ำสีของวัตถุที่เห็นจะผิดเพี้ยนมากกว่าหลอดไฟที่มีค่า Ra สูง
- อุณหภูมิสี (Color temperature: k): คือโทนสีของแสงไฟ มีหน่วยเป็นเคลวิน (k) ถ้ามีค่าอุณหภูมิสีของแสงต่ำแสดงว่าแสงที่ได้จะเป็นโทนร้อนแต่ถ้าหากค่าอุณภูมิสีของแสงสูงแสงที่ได้จะเป็นโทนเย็น อุณหภูมิสีของแสงแบ่งเป็นกลุ่มกว้างๆ ได้ดังนี้
– Warm white: สีของแสงจะเป็นสีโทนร้อน อบอุ่น ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ประมาณ 3000K
– Cool white: สีของแสงจะเป็นโทนเย็นสบายตาซึ่งจะเริ่มออกเป็นสีขาว ค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ประมาณ 4000K
– Daylight: สีของแสงจะเป็นสีโทนออกขาวอมฟ้า เป็นโทนสีที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในเวลากลางวันมากที่สุด ค่าอุณหภูมิของแสงอยู่ที่ประมาณ 5000K

ภาพแสดงค่าอุณหภูมิสีต่างๆ
- มุมการใช้งานหลอด (Burning position): ดูมุมกระจายแสงของหลอดว่าหลอดที่เราเลือกนั้นมีมุมกระจายแสงเท่าไร เหมาะกับการติดตั้งใช้งานตามที่เราต้องการหรือไม่
- มาตรฐาน: ควรดูว่าโคมไฟที่เราเลือกนั้นได้รับมาตรฐานการรับรองหรือไม่เพื่อความมั่นใจถึงคุณภาพสินค้าที่เราจะใช้ หากเราจะนำโคมไฟนั้นไปติดตั้งใช้งานบริเวณนอกอาคารหรือบริเวณที่เสี่ยงต่อการเผชิญกับน้ำและฝุ่น ควรดูว่าได้มาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่น (IP: International Protection Commission) หรือไม่ เช่น IP20, IP65, IP66, IP67 เป็นต้น

- อายุการใช้งาน (Life time): อายุการใช้งานของหลอดแบบ LED นั้นจะสามารถใช้งานได้มากถึง 50,000 ชั่วโมง
- การเปรียบเทียบสเปคของแต่ละรุ่น: เพื่อการเลือกสินค้าให้ตรงกับที่เราต้องการมากที่สุดเราควรดูสินค้าให้หลากหลายรุ่นแล้วนำสเปคเรานั้นมาเปรียบเทียบกัน โคมไฟที่มีในท้องตลาด ณ ตอนนี้มีจำหน่ายมากมายหลายแบรนด์ ซึ่งโคมไฟ LED จาก OSRAM นั้นถือว่ามีความคงทน สามารถใช้งานได้นาน ให้ความสว่างของแสงที่สม่ำเสมอ ด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตเม็ดชิปในแบบฉบับของ OSRAM โดยเฉพาะ

ภาพแสดงการเปรียบเทียบสเปคของ Down Light ในแต่ละรุ่นของ OSRAM
เป็นอย่างไรครับกับวิธีการเลือกซื้อโคมไฟ LED หากเราต้องการซื้อโคมไฟ LED มาใช้ให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด เวลาซื้ออย่าลืมดูรายละเอียดเหล่านี้นะครับ หากผู้อ่านท่านใดต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักการทำงานของโคมไฟ LED, ประเภทของโคมไฟ LED, การติดตั้งและข้อควรระวังโคมไฟ LED, การประยุกต์ใช้งานโคมไฟ LED สามารถเข้าไปเลือกศึกษาได้เลยครับ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเขามาได้ที่ Factomart.com ได้ทุกช่องทาง
หากต้องการเลือกชมสินค้าสามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ Factomart.com